ใกล้ถึงวันไหว้พระจันทร์ของปีอีกแล้ว คิดแล้วก็นึกถึงขนมไหว้พระจันทร์อร่อย ๆ ขึ้นมาเลย... อะ ! มัวแต่นึก สวัสดีครับ บก. ขวัญมาอีกแล้ว วันนี้เห็นเป็นโอกาสเหมาะ เลยนึกถึงเรื่องที่เกี่ยวกับวันไหว้พระจันทร์ขึ้นมา เลยอยากมาร่วมแบ่งปันเรื่องราวให้แฟนเพจสุขภาพใจได้อ่านกันครับ

วันไหว้พระจันทร์หรือเทศกาลไหว้พระจันทร์ มีความเกี่ยวพันและมีเรื่องราวที่สืบทอดกันมามากมายเกี่ยวกับพระจันทร์ เชื่อกันว่าเทศกาลไหว้พระจันทร์ถือกำเนิดมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว ในอดีต เทศกาลนี้จัดขึ้นเพื่อสวดขอพรเทพเจ้า เนื่องจากประเทศจีนเป็นสังคมเกษตรกรรมที่กว้างใหญ่ไพศาล ในวันขั้น 15 ค่ำ เดือน 8 (ตามปฏิทินจันทรคติ) จะตรงกับช่วงหลังการเก็บเกี่ยวของฤดูใบไม้ร่วงพอดี โดยทั่วไป ในวันนั้นท้องฟ้าจะปลอดโปร่งและอากาศดี ประชาชนจึงเฉลิมฉลองด้วยการจัดเลี้ยงอาหารหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อแสดงถึงหลักการที่ว่า “ทวยเทพและมวลมนุษย์ล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน” ในสมัยราชวงศ์ซ่ง 宋朝

แน่นอน ที่ว่า “ทวยเทพและมนุษย์ล้วนเป็นหนึ่งเดียวกันนี้” แสดงให้เห็นว่าชาวจีนมีความเชื่อเรื่องเทพเจ้ามาอย่างยาวนาน และเทพที่สำคัญของเทศกาลไหว้พระจันทร์นี้ก็คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากจันทรเทวี นามว่า ฉางเอ๋อ 嫦娥 นามของพระองค์เรียกอีกอย่างว่า 常娥 (ฉางเอ๋อ) พระนามเดิมมีนามว่า ฉางซี 常羲 (ในสมัยโบราณ อักษร เอ๋อ 娥 กับอักษร ซี 羲 อ่านเสียงเดียวกัน) หรือ ฉางอี๋ 常儀 ก็เรียก และในหนังสือโบราณยังเรียกอีกนามว่า เหิงเอ๋อ 姮娥 ท่านเป็นจันทรเทวีหรือเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ ด้วยเหตุที่เกิดในวันเพ็ญเดือน 12 (ตามจันทรคติ) พระนาม 常羲 จึงมีความหมายในทางอักษรศาสตร์จีนว่า ผู้ที่เกิดในวันเพ็ญ
ในศาสนาเต๋ายกย่องให้ท่านเป็น ไท่อินซิงจวิน 太陰星君 เทพดาราศศิธร (เทพแห่งดวงจันทร์) 
สำหรับกำเนิดนั้น ในคัมภีร์โบราณ ซานไห่จิง (คัมภีร์ขุนเขามหาสมุทร)《山海經》 กล่าวถึงเทพธิดาฉางเอ๋อว่า นางเป็นราชธิดา (บางตำนานว่าเป็นพระสนม) ของกษัตริย์ตี้คู่ 帝嚳 หนึ่งใน 3 จักรพรรดิ 5 กษัตริย์ 三皇五帝 (3 จักรพรรดิ หมายถึง ซุ่ยเหริน 燧人 ฝูซี และเสินหนง 神農 ส่วน 5 กษัตริย์ หมายถึง หวางตี้ 黃帝 จวนซวี 顓頊 ตี้คู่ 帝嚳 เหยา 堯 และ ซุ่น 舜) ของชาวจีนโบราณ มีรูปร่างหน้าตาที่สะสวยยากหาหญิงใดเปรียบ มีกิริยาสงบเสงี่ยม เรียบร้อย วางเฉย ไม่ค่อยพูดจา จนดูเย่อหยิ่งในบางครั้ง
ต่อมาในสมัยพระเจ้าเหยา บนท้องฟ้าเกิดมีดวงอาทิตย์ 10 ดวงขึ้นพร้อมกัน ทำให้โลกและมนุษย์ได้รับความเดือดร้อน ในเวลานั้น นักขมังธนูหนุ่ม ผู้เป็นราชบริพารของพระเจ้าเหยาคนหนึ่งนาม โฮ่วอี้ 后羿 รับบัญชาให้ไปยิงดวงอาทิตย์ โฮ่วอี้ยิงตกร่วงลงมาเสีย 9 ดวง ครั้นจะยิงดวงที่ 10 ก็ยกไว้ เพราะเห็นว่า หากยิงดับหมดโลกและมนุษย์คงมีชีวิตอยู่ไม่ได้ ด้วยต้องอาศัยพลังจากดวงอาทิตย์ เมื่อภารกิจสำเร็จ พระเจ้าตี้คู่จึงยกนางฉางเอ๋อให้แต่งเป็นภรรยา อยู่ครองรักกันเป็นที่น่าอิจฉา 
วันหนึ่ง เรื่องที่โฮ่วอี้ยิงดวงอาทิตย์ทราบไปถึงพระแม่เจ้าซีหวังหมู่ 西王母 แห่งเขาคุนหลุน 崑崙山 (พระเทวีผู้เป็นใหญ่ผู้ปกครองเทพฝ่ายหญิงบนสวรรค์ คู่กับเง็กเซียนฮ่องเต้) พระองค์จึงประทานยาวิเศษให้ 2 เม็ด อันยาวิเศษนี้ มีสรรพคุณคือ หากใครที่กิน 1 เม็ด จะไม่แก่ไม่ตาย หากกิน 2 เม็ด ร่างกายก็จะเบา เหาะเหินเดินอากาศได้ และสำเร็จเป็นเทพเซียน โฮ่วอี้บอกเรื่องนี้ให้ฉางเอ๋อรู้ และตั้งใจเก็บยาไว้ รอวันเวลาที่มีฤกษ์มงคล จึงค่อยแบ่งกันกินคนละเม็ด เพื่อจะได้อยู่ครองคู่กันตลอดไป แต่ทว่า ฉางเอ๋อกลับมีใจที่จะกินยาวิเศษนั้นคนเดียว จึงรอเวลาที่โฮ่วอี้เผลอขโมยกินทั้ง 2 เม็ด ทันใด ร่างกายก็เบา ค่อย ๆ ลอยขึ้นไปสู่ท้องฟ้า พระแม่ซีหวังหมู่ทราบความต้องการที่จะสั่งสอนนาง จึงให้ฉางเอ๋อเป็นนางฟ้าสถิตอยู่ ณ ตำหนักกว่างหานกง 廣寒宮 บนดวงจันทร์ มีหน้าที่ดูแล บดยาวิเศษ อยู่ที่นั่นตลอดชั่วกาลนาน 
กล่าวกันว่า บนดวงจันทร์ นอกจากมีฉางเอ๋อ พระตำหนักกว่างหานกงแล้ว ยังมีสิ่งมีชีวิตอยู่อีกคือ กระต่ายหยก (ที่นางฉางเอ๋ออุ้มอยู่) คางคก และต้นกุ้ย 桂樹 ที่ว่ากันว่า เป็นต้นไม้ที่ตัดไม่ตาย ยิ่งตัดยิ่งงอกแตกกิ่งก้านออกมากมาย และยังมีเทพ อู๋กัง 吳剛 ที่ถูกลงโทษให้ไปตัดต้นกุ้ยอยู่ด้วย

ที่เล่ามาเป็นนิทานเรื่อง ฉางเอ๋อเหาะสู่ดวงจันทร์ 《嫦娥奔月》 ที่รู้จักกันดีในหมู่ชาวจีน และเป็นเรื่องราวที่มีสีสันจากหนังสือ ต้นกำเนิเทศกาลจีน เป็นอย่างไรกันบ้างครับ

เทศกาลจีนนั้น ยังมีอีกหลายเทศกาลที่สนุกและน่าสนใจ ติดตามต่อได้ใน ต้นกำเนิเทศกาลจีน โดย โกห์ ไป กิ ที่ร้านหนังสือชั้นนำและสำนักพิมพ์สุขภาพใจครับ

อยากรู้เรื่องจีน นึกถึงสุขภาพใจ

วันนี้ ผมต้องขอตัวไปหาซื้อขนมไหว้พระจันทร์ก่อนแล้ว แล้วพบกันใหม่ครับ ^^

 

 

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

ต้นกำเนิดเทศกาลจีน  ประพันธ์โดย โกห์ ไป กิ ราคา 200.00 บาท