ตามรอยพระถังซัมจั๋ง บนเส้นทางสายไหม

5/6/2557 โดย ทีมการตลาดสำนักพิมพ์สุขภาพใจ
แชร์: line

พระถังซัมจั๋งคือใคร ?

พระถังซัมจั๋งที่คนไทยรู้จักกันดีจากวรรณกรรมเรื่องไซอิ๋วที่จัดว่าเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดวรรณกรรมของจีนนั้น น้อยคนนักที่จะรู้ว่าท่านเป็นตัวละครที่มีตัวตนอยู่จริง ๆ ในช่วง พ.ศ. 1143 - 1207 ปลายราชวงศ์สุยต้นราชวงศ์ถัง ซึ่งเป็นยุคทองของประวัติศาสตร์จีนในนามของ "สมณะเสวียนจั้ง"

สมณะเสวียนจั้งเห็นว่าพระคัมภีร์ที่ศึกษากันอยู่ราชอาณาจักรจีนนั้นถูกแปลแตกต่างกันไปเนื่องจากอาจารย์แต่ละท่านมีแนวการตีความไม่เหมือนกัน นอกจากนั้นก็ยังแปลไม่ครบตลอดทั้งฉบับ ท่านจึงตัดสินใจจาริกไปชมพูทวีป เพื่อศึกษาและอัญเชิญพระคัมภีร์ฉบับจริงนั่นเอง

สมณะเสวียนจั้งนั้นเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการฝ่าด่านเหล็กของประเทศจีน อีกทั้งต้องผ่านทะเลทรายโกบีที่ร้อนระอุไร้ผู้คน ท่านต้องปีนป่ายข้ามเทือกเขาฮินดูกูฏที่สูงชันไปไปเพียงลำพังผู้เดียว แต่ด้วยศรัทธาอันแรงกล้าและจิตใจที่ตั้งมั่นขอถวายชีวิตเป็นพุทธบูชา ตั้งอธิษฐานขอบารมีแห่งพระโพธิสัตว์ช่วยปกป้องชี้ทางทำให้ท่านสามารถฝ่าฟันอันตราย ผ่านอุปสรรคนานัปการไปได้

เมื่อเดินทางมาถึงประเทศอินเดียแล้วท่านก็จาริกเดินทางขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับอาจารย์ในอินเดียหลายสำนัก ท่านมีฉันทะวิริยะในการแสวงหาความรู้ เมื่อมีโอกาสได้ศึกษาสาขาวิชาใดจะมุ่งมั่นศึกษาสาขาวิชานั้นๆ กระทั่งแตกฉาน โดยไม่มีอคติว่าเป็นวิชาความรู้ของนิกายใด

ภายหลังจากที่สมณะเสวียนจั้งเดินทางจากประเทศอินเดีย พร้อมอัญเชิญพระไตรปิฎกฉบับภาษาสันสกฤตเป็นจำนวน 657 ปกรณ์กลับสู่ประเทศจีนแล้ว ท่านได้จัดตั้งสนามแปลคัมภีร์ขึ้นภายใต้พระบรมราชูปถัมภ์ของพระเจ้าถังไท่จง ผลงานการแปลพระไตรปิฎกกว่าครึ่งหนึ่งของที่อัญเชิญมาเป็นผลงานการแปลของท่านทั้งสิ้น

แผนที่การเดินทางของสมณะเสวียนจั้ง หรือพระถังซัมจั๋งทั้งขาไปและขากลับ
(จากหนังสือ พระถังซัมจั๋ง ชีวิตจริงไม่อิงนิยาย)