คำเลียนเสียง: เสียงเดียวกัน ความหมายต่างกันในภาษาไทย–จีน
หากเราเดินทางไปประเทศจีนและพยายามเรียกแมวด้วยเสียงว่า “เหมียวๆ” เหมือนที่คุ้นเคยในภาษาไทย เป็นไปได้ว่าแมวตัวนั้นอาจไม่หันมาสนใจ ทั้งที่เป็นสัตว์ชนิดเดียวกันและได้ยินเสียงจริงไม่ต่างกัน เหตุการณ์เล็กๆ เช่นนี้แสดงให้เห็นว่า “คำเลียนเสียง” ในแต่ละภาษามีความแตกต่างกัน และความแตกต่างนั้นส่งผลต่อการสื่อสารโดยตรง หากผู้พูดไม่เข้าใจระบบคำเลียนเสียงของภาษานั้น ๆ อาจทำให้การสื่อสารคลาดเคลื่อนได้โดยไม่รู้ตัว
คำเลียนเสียง คือคำที่สร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบเสียงจากมนุษย์ สัตว์ ธรรมชาติ หรือสิ่งของ โดยมีหน้าที่ช่วยถ่ายทอดอารมณ์ ภาพ และบรรยากาศให้ชัดเจนยิ่งขึ้น หนังสือ 100 คำเลียนเสียงมนุษย์ สัตว์ ธรรมชาติ สิ่งของ โดยอาศรมสยาม จีนวิทยา ได้รวบรวมคำเลียนเสียงในภาษาจีนไว้อย่างเป็นหมวดหมู่ พร้อมคำอธิบายการใช้งาน ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนเห็นความแตกต่างระหว่างคำเลียนเสียงในภาษาไทยและภาษาจีนได้อย่างชัดเจน
หมวดคำเลียนเสียงของสัตว์ จะเห็นความแตกต่างได้ง่ายที่สุด ตัวอย่างเช่น เสียงแมว ภาษาไทยใช้คำว่า “เหมียว” แต่ภาษาจีนใช้คำว่า “喵喵 (miāo miāo)” หรือเสียงสุนัข ภาษาไทยใช้ “โฮ่งๆ” ขณะที่ภาษาจีนใช้ “汪汪 (wāng wāng)” นอกจากนี้ เสียงไก่ขัน ภาษาไทยใช้ “เอ้กอีเอ้ก” ส่วนภาษาจีนใช้ “喔喔 (ō ō)” และเสียงเป็ดที่ภาษาไทยใช้ “แอ๊บๆ” ขณะที่ภาษาจีนใช้ “嘎嘎 (gā gā)” แม้จะเป็นเสียงจากสัตว์ชนิดเดียวกัน แต่การถ่ายทอดออกมาเป็นคำกลับแตกต่างกันตามโครงสร้างเสียงของแต่ละภาษา
คำเลียนเสียงของมนุษย์ก็มีบทบาทสำคัญในการสื่อสารเช่นกัน ตัวอย่างเช่น เสียงหัวเราะ ภาษาไทยใช้ “ฮ่าๆ” ส่วนภาษาจีนใช้ “哈哈 (hā hā)” เสียงร้องไห้ ภาษาไทยอาจใช้ “ฮือๆ” ขณะที่ภาษาจีนใช้ “呜呜 (wū wū)” หรือเสียงตกใจ ภาษาไทยใช้ “อุ๊ย!” ส่วนภาษาจีนใช้ “哎呀 (āi yā)” คำเหล่านี้ช่วยถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างชัดเจน โดยไม่จำเป็นต้องอธิบายเป็นประโยคยาวๆ
หมวดคำเลียนเสียงจากธรรมชาติและสิ่งของ ก็สะท้อนความแตกต่างของภาษาได้เช่นเดียวกัน เช่น เสียงฝนตก ภาษาไทยใช้ “ซ่าๆ” ส่วนภาษาจีนใช้ “沙沙 (shā shā)” เสียงฟ้าร้อง ภาษาไทยใช้ “ครืน” ขณะที่ภาษาจีนใช้ “轰隆 (hōng lōng)” หรือเสียงประตูปิด ภาษาไทยใช้ “ปัง” ส่วนภาษาจีนใช้ “砰 (pēng)” คำเลียนเสียงเหล่านี้มักพบในงานเขียน นวนิยาย การ์ตูน และบทสนทนา เพื่อเพิ่มความสมจริงและอรรถรสในการสื่อ

*จากตัวอย่างคำเลียนเสียงที่ปรากฏในหนังสือ 100 คำเลียนเสียงมนุษย์ สัตว์ ธรรมชาติ สิ่งของ จะเห็นได้ว่าคำเลียนเสียงไม่ใช่เพียงการเลียนแบบเสียงเท่านั้น แต่ยังสะท้อนวิธีคิด วัฒนธรรม และโครงสร้างของภาษาไทยและภาษาจีน การเรียนรู้คำเลียนเสียงควบคู่กันจึงช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจภาษาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สามารถสื่อสารได้อย่างเป็นธรรมชาติ และหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นเมื่อต้องใช้ภาษาในบริบทที่ต่างกัน*